ธุรกิจความงาม

ทำไมธุรกิจสุขภาพ ความงาม จึงเป็นธุรกิจมาแรงแห่งทศวรรษ
(อ้างอิง ข้อมูลจาก A4M)

จุดเปลี่ยนแห่งยุค

ช่วงของ “จุดเปลี่ยน” ดูเหมือนจะเกิดขึ้นทุก10-20ปี โดยเราประมวลเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในธุรกิจทั่วโลกโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ประเทศที่มักสร้างยวัตกรรมใหม่ๆ เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงปี 1970 เป็นต้นมา


ยุค 70’s
ข้อความทั้งหมดนี้นำมาจากนิตยสาร Ad age ปี 1973 โลกประสบปัญหาพลังงาน ภาวะเงินเฟ้อ และวิกฤตผู้นำในวอชิงตันนำมาสู่ภาวะถดถอยที่ทำลายเสถียรภาพทางการเงินของสหรัฐฯตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 1973 ถึงมีนาคม 1975 อัตราการว่างงานทะลุ 9% เงินเฟ้อพุ่งขึ้นถึง 11% หุ้นปรับตัวลดลง 48% ทั่วโลกกำลังตัดค่าใช้จ่ายสิ่งฟุ่มเฟือย แต่ นาย บิล เกตส์และพอล อัลเลนเริ่มธุรกิจไมโครซอฟท์ในปี 1975 และนี่คือ จุดเปลี่ยน จุดแห่งการเกิดของนวัตกรรมใหม่ เป็นนวัตกรรมด้านไอที

ยุค 80’s
ทศวรรษ 1980 ยังเป็นยุคที่มีอัตราการเติบโตของจำนวนประชากรอย่างมาก ในทั่วโลก ราคาเชื้อเพลิงพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ แต่ FedEx Express (FedEx) มีแนวคิดเรื่องเครือข่ายนานาชาติและประสบความสำเร็จ โดยในปี 1989 FedEx ขยายการบริการส่วนภูมิภาคเมื่อซื้อกิจการ Flying Tigers ซึ่งเป็นสายการบินคาร์โก้ที่บินตรงสู่ 21 ประเทศ กรณีศึกษาของ Wal-Mart ซึ่งเป็นองค์กรหนึ่งที่มีกลยุทธ์การสร้างฐานการเติบโตขององค์กรที่เด่นชัด ในนำเอามากลยุทธ์เทคนิควิธีในแขนงต่างๆ มาบริหารจัดการในการเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถทางการแข่งขัน ในการผสมผสานกันของเทคนิควิธีของ Wal-Mart ได้แก่ การบริหารจัดการโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทาน (Logistic & Supply Chain Management) การจัดการบริหารเทคโนโลยี (Management of Technology: MOT) ปี1985เปิดตัว Wal-Mart Satellite ดาวเทียมเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ เพื่อใช้ติดต่อระหว่างร้านกับสำนักงานใหญ่ใช้ระบบ bar-code scanning
การเป็นผู้ค้าปลีกรายใหญ่นั่นแท้ที่จริง คือการเป็นผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ที่กระจายสินค้าได้ดีที่สุดนั่นเอง นี่คือ จุดเปลี่ยน ระบบการกระจายสินค้าแบบทันท่วงที

ยุค 90’s
ยุคดอมคอม เศรษฐกิจอเมริการุ่งเรืองตลอดทศวรรษ 1990 มีการปฏิวัติเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ทำให้การลงทุนในอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศขยายตัวสูง โดยเฉพาะMacที่ได้สร้างระบบปฏิบัตการของตัวเองภายใต้แนวคิด Mac “คิดอย่างแตกต่าง (Think Different)” ไอเดียต้นแบบของ GUI มาจากโครงการพัฒนาของ Xerox สตีฟ จ๊อบไปนำความรู้และทีมงาน บางส่วนมาพัฒนา โดยแลกกับหุ้นของ Apple และพัฒนาต่อยอดจนเป็น ระบบปฏิบัติการ Mac OS โดยยังได้พัฒนาเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพ เพิ่มขึ้น ภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์ Macintosh ซึ่งยังส่งผลให้ Apple มีชื่อเสียงในด้านผลิตภัณฑ์มาจนถึงปัจจุบัน ด้วยมาตรฐานและเอกลักษณ์ทางการตลาดที่สอดคล้องกับปณิธานองค์กรที่ว่า “คิดอย่างแตกต่าง (Think Different)” จุดเปลี่ยนที่จะพูดถึงคือ ทีม อันประกอบด้วย นักวิจัย ผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ นั่นเอง

ยุค Y2K (2000)
ยุคฟองสบู่แตก กลางปี2000 ฟองสบู่ตลาดดอทคอมแตก ส่งผลให้เกิดความถดถอยทางเศรษฐกิจในสหรัฐ เช่น Exxon Mobil เป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดตั้งแต่ปี 2006 ตอนที่สามารถแซงบริษัท GE ขึ้นมาได้ และ มันก็ไม่ได้เสียหายมากเหมือนบริษัทเทคโนโลยีทั้งหลาย แต่มูลค่าของบริษัทก็ได้ลดฮวบฮาบ ราคาหุ้นลดลงไปตามตลาดหุ้น
ร้านค้าออนไลน์ (e-Commerce: Long Tail Business Online) ได้สร้างยอดขายแบบถล่มทลาย ทั้งๆทีสินค้าในโลกออนไลน์สามารถซื้อหาได้ในห้างสรรพสินค้า สาเหตุมาจากอะไร หรือ อะไรคือ จุดเปลี่ยน ในปี 2004 Chris Anderson ได้ทำการสังเกตปรากฏการณ์ทางธุรกิจบางอย่างที่อยู่บนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Google, Amazon.com, Rhapsody, และบริษัทออนไลน์อื่นๆ อีกมากมาย พบว่ารูปแบบธุรกิจ (Business Model) ของธุรกิจออนไลน์ระดับโลกเหล่านี้กลับมีรูปแบบการทำรายได้ที่ไม่สอดคล้องตามกฎ80/20 โดยสังเกตพฤติกรรมของการซื้อสินค้า และจากการเก็บข้อมูลจาก Google พบว่าโฆษณารวมกันของรายย่อยทำกำไรให้กับ Google อย่างมาก หรือแม้แต่ Amazon และ eBay ก็ตาม ที่มียอดจำหน่ายจากหนังสือที่ไม่เป็นที่นิยมติดอันดับ รวมกันเป็นจำนวนมาก (ประมาณ 25% ของยอดขายรวม)
ทำให้เกิด จุดเปลี่ยนของ การบริการออนไลน์ และ E-commerce ในแบบ Long Tail

และวันนี้ 2010
จะเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านใด

เมื่อ20ปีที่แล้ว กลุ่มประชากรวัยรุ่น และ นักเรียน,นักศึกษา มีจำนวนมาก สินค้ายุคนั้นจึงโฟกัสไปที่เด็กวัยรุ่นเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก และเป็นตลาดขนาดใหญ่ โดยเราเรียกชื่อยุคนั้นว่า “Baby Boomers”
วันนี้ “Baby Boomers” มีอายุอยู่ระหว่าง 35-55 ปี กลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีอำนาจซื้อ ที่สำคัญมีพฤติกรรมการบริโภคติดตัวมาตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น ทำให้คนกลุ่มนี้มีวิถีชีวิตแบบคนในเมืองใหญ่ (City Lifestyle) ซื้อ รถ, บ้าน, คอนโด, เลือกสรรในการบริโภคสินค้า มีความใส่ใจในแบรนด์ โดยเฉพาะ คุณภาพชีวิตที่ดีกว่า

เมื่อหลายปีก่อน ในสหรัฐอเมริกาได้ทำการศึกษาศาสตร์ใหม่ของวงการแพทย์ด้านการชะลอวัย และต่อมาได้จัดตั้ง องค์กรกลางขึ้นในรูปแบบสถาบัน ชื่อ American Academy of Anti-Aging Medicine (A4M) และกลายเป็นองค์กรที่ได้รับการยอมรับจากวงการแพทย์ทั่วโลก จากการเปิดเผยของA4M ทำให้เราทราบว่า ประชากรที่มีอายุอยู่ระหว่าง 35-55 ปี จับจ่ายด้านสุขภาพและการชะลอวัยปีละ 1แสนล้านเหรียญและจะสุงขึ้นอีกนับจากปี2010เป็นต้นไป ด้วยพฤติกรรมการแสวงหาความอ่อนเยาว์, การชะลอความแก่ชรา และ การมีสุขภาพที่ดีให้ตนเอง


และนี่คือจุดเปลี่ยนของธุรกิจแห่งทศวรรษนี้
ประมวลภาพได้ว่า ทำไมธุรกิจสุขภาพ-ความงาม จึงมาแรง



ทำไมต้อง bimcenter

บิมเซ็นเตอร์ คือ ธุรกิจอันดับหนึ่งในวงการธุรกิจด้านนวัตกรรมแห่งโลกวิทยาศาสตร์สุขภาพ ของวันนี้และอนาคต


ผลิตภัณฑ์ในธุรกิจแฟรนไชส์ของเรา เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ (Natural Based) ของ บมจ.เอเชียน นูทราซูติคอล เซ็นเตอร์ (Asian Nutraceutical Centre) และ มีสายผลิตภัณฑ์ด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพได้ถึง 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ อันได้แก่

1. กลุ่มความงามและสุขภาพผิว (Dermatology Cosmetic)
2. กลุ่มฟื้นฟูและบำรุงความอ่อนเยาว์ (Anti-Aging Care)
3. กลุ่มลดน้ำหนัก และ การกระชับสัดส่วน (Beauty Slimming Treatment)
4. กลุ่มดูแลสุขภาพ จากขบวนการสร้างสมดุลให้ระบบภูมิคุ้มกัน (Balancing Immune Care)



ทุกผลิตภัณฑ์มีมาตรฐานระดับสากล เป็นผลงานการค้นคว้าวิจัย และพัฒนาโดยคณะวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ของ บมจ.เอเชียน นูทราซูติคอล เซ็นเตอร์ (Asian Nutraceutical Centre) โดย มีมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ ดังนี้

o ทุกผลิตภัณฑ์มีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือได้
o มีความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ 100%
o มีประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์เกินกว่า 90%


แนวคิดการตลาดสมัยใหม่
1. การสร้างสัมพันธ์ทางสังคมจากการแนะนำบอกต่อ (Social Relationship Marketing)
2. การกระจายข่าวสารเชิงบวก (Viral Marketing)
3. การสร้างระบบมาตรฐานการทำงานพื้นฐาน แบบอุปสงค์/อุปทาน (URTMS System)
4. กลยุทธการให้เพื่อการรับแบบPeople before Profit (V.I.P Strategy)
5. การเป็นนักบริหารองค์กรแบบเครือข่ายสีขาว ด้วยปรัชญาจากกลยุทธ์น่านน้ำสีขาว


ด้วยความเชี่ยวชาญในธุรกิจค้าปลีก และ การขายตรงผ่านสมาชิก เรายังมีโซลูชั่นทางธุรกิจให้คุณได้เลือก ตามความเหมาะสมและงบประมาณของคุณ



คุณจึงเชื่อมั่นได้ เพราะเราคือทีมที่ปรึกษาธุรกิจแบบครบวงจร ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญจากหลายธุรกิจชั้นนำ

โทร 08 0541 3111